พบกับเคล็ดลับดี ๆ สำหรับคนที่กำลังลดน้ำหนัก หรือเข้าสู่โปรแกรมไดเอทลดหุ่น ที่จะช่วยเพิ่มความท้าทาย ไม่น่าเบื่อจนล้มเลิกความตั้งใจไป ด้วยลู่วิ่งไฟฟ้าจากแบรนด์ Core-Fitness รุ่น Pro Run Plus ด้วยฟีเจอร์พร้อมทริคที่สามารถนำไปใช้งานทันที

 

1. เช็คระดับชีพจร

ลู่วิ่ง Core-Fitness รุ่น Pro Run Plus จะมาพร้อมแท่นจับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ ที่สามารถแสดงผลบนหน้าจอได้อย่างเรียลไทม์ สำหรับเช็คความหนัก/เบา ในขณะออกกำลังกาย โดยไม่แนะนำให้จับแท่นวัดอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ตลอดเวลา ควรจับเมื่อต้องการเช็คค่าเท่านั้น เพื่อออกกำลังกายท่าทางที่ถูกต้อง โดยไม่ควรโน้มตัวไปข้างหน้า ซึ่งเสี่ยงต่อการบาดเจ็บสะสมได้

สำหรับเทคนิคของการลดน้ำหนัก (Diet) บนลู่วิ่งออกกำลังกาย มีเคล็ดลับไม่ยาก สามารถนำไปใช้ได้ทันที โดยต้องควบคุมโซนของอัตราการเต้นของหัวใจให้อยู่ในระดับโซน 2 อยู่ตลอดขณะออกกำลังกาย เพื่อดึงไขมันออกมาเผาผลาญอย่างเต็มที่ โดยมีเทคนิคดังนี้

  1. วอร์มร่างกายโดยเดินช้า ๆ (เวลา 5 - 10 นาที) เพื่อทำให้ร่างกายพร้อมออกกำลังกาย
  2. ค่อย ๆ เพิ่มระดับความเร็ว ในระดับที่ต้องการ
  3. ถ้าต้องการความเข้มข้น สามารถเพิ่มระดับความชัน เพื่อเดินเร็ว ๆ
  4. รักษาระดับโซนของอัตราการเต้นของหัวใจ ให้อยู่ที่โซน 2 (ระยะเวลา 30 นาทีขึ้นไป)

 

วิธีหาระดับโซนอัตราการเต้นของหัวใจ

หัวใจเต้นในอัตรา 60 - 70% ของ Maximum Heart Rate เพื่อทำให้ร่างกายเข้าสู่ขั้นเผาผลาญไขมัน และเลือดไปสูบฉีดกล้ามเนื้อมากขึ้น

 

1.1 หาค่า Maximum Heart Rate

  • มาตรฐาน : Max HR = 220 - อายุ
  • ผู้ชาย : MaxHR = 214 – (0.8 x อายุ)
  • ผู้หญิง : MaxHR = 209 – (0.7 x อายุ)

 

โดยนำค่า Max HR มาหาค่าเฉลี่ยของโซน 2 ดังนี้

  • Max HR x 60% = อัตราการเต้นหัวใจ (ค่าต่ำสุดของโซน 2)
  • Max HR x 70% = อัตราการเต้นหัวใจ (ค่าสูงสุดสุดของโซน 2)

เมื่อเราทราบค่าอัตราการเต้นหัวใจในโซน 2 แล้ว ในขณะวิ่ง หรือเดินเร็ว ๆ บนลู่วิ่ง ให้จับแท่นวัดอัตราการเต้นหัวใจเพื่อเช็ค และรักษาโซนให้ต่อเนื่อง (30 นาทีขึ้นไป) เพื่อเข้าสู่โปรแกรมไดเอท และทำให้ร่างกายใช้ไขมันไปเผาผลาญได้อย่างรวดเร็ว

 

1.2 วัดข้อมูลจากนาฬิกาวัดชีพจร

วิธีนี้สามารถเช็คค่าอัตราการเต้นหัวใจได้ง่าย สำหรับนาฬิกา Garmin Forerunner 255s ในโหมดออกกำลังกาย เช่น โหมดลู่วิ่ง หรือกิจกรรมในร่ม โดยการวัดจากเซ็นเซอร์ที่ข้อมือ และสามารถกำหนดการแจ้งเตือนโซน แสดงผลชี้วัดโซนได้อย่างเรียลไทม์ เพื่อให้เรารักษาโซนได้จนจบโปรแกรมออกกำลังกาย

 

 

2. เปลี่ยนท่าทางออกกำลังกาย

ให้ลองสังเกตท่าเดิน หรือท่าวิ่ง บนลู่วิ่ง ควรอยู่ในท่าที่ผ่อนคลาย และไม่ส่งผลต่อการเกร็งของร่างกาย เพื่อลดการบาดเจ็บสะสม

เคล็ดลับของท่าทางออกกำลังกายที่ถูกต้อง

  1. ในขณะออกกำลังกาย ไม่ควรจับราวลู่วิ่ง หรือแท่นจับวัดชีพจรอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวอย่างเต็มที่
  2. เมื่อเดินเร็วๆ หรือวิ่ง ควรก้าวขาให้กว้าง เพื่อความปลอดภัย และส่งผลต่อการใช้แรงเผาผลาญที่มากขึ้น
  3. เมื่อปรับความชันสูงกว่าระดับ 5 ขึ้นไป ไม่ควรปรับระดับความเร็วมากจนเกินไป ให้รักษาระดับก้าวที่สามารถก้าวทันได้สม่ำเสมอ

 

 

3. เรียนรู้การใช้งาน

ในลู่วิ่ง Core-Fitness รุ่น Pro Run Plus จะมีปุ่มต่าง ๆ ให้ได้เลือกใช้งาน ควรศึกษาคู่มือ หรือสอบถามคำแนะนำก่อนใช้งาน เพื่อใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ อย่างเช่น การใช้งานปุ่มปรับระดับความชัน และปุ่มลัดต่างๆ เพื่อทำให้การออกกำลังการลดน้ำหนักไม่น่าเบื่ออย่างที่เคย

แนะนำปุ่มที่ใช้งานบ่อยสำหรับลดน้ำหนัก

  • ปุ่มลัดสำหรับปรับความชัน เช่น 4, 8, 12 (ปรับอัตโนมัติ) โดยที่ไม่ต้องกดไล่ระดับเอง
  • ปุ่มลัดสำหรับปรับความเร็ว เช่น 4, 8, 12 (ปรับอัตโนมัติ) โดยที่ไม่ต้องกดไล่ระดับเอง
  • ปุ่มหยุดฉุกเฉิน (สำหรับหยุดเมื่อเกิดเหตุการณ์อันตราย)

 

 

4. ตั้งเป้าหมายออกกำลังกาย

สิ่งสำคัญที่คนใช้งานลู่วิ่งต้องให้ความสำคัญ นั้นก็คือ "โปรแกรมการออกกำลังกาย" ที่เสมือนมีโค้ชคู่ใจคอยแนะนำ และตั้งเป้าหมายให้ทำจนสำเร็จ อย่างในเมนู "Sport Center" บนลู่วิ่ง Core-Fitness รุ่น Pro Run Plus

นอกจากหน้าจอลู่วิ่งจะแสดง ระดับความชัน, ค่าอัตราการเต้นของหัวใจ, ระยะเวลา, จำนวนก้าว, ระยะทาง และแคลอรี่ ยังมีเมนู  "Sport Center" สำหรับเลือกใช้งานโปรแกรมออกกำลังกายที่หลากหลายเพื่อทำให้การออกกำลังกายลดน้ำหนักได้สนุก และท้าทายมากยิ่งขึ้น

 

 

ลู่วิ่ง Core-Fitness รุ่น Pro Run Plus มีโปรแกรมออกกำลังกายให้เลือกใช้งาน ดังนี้

  1. Time Coutdown : เป้าหมายเวลา (นับถอยหลังเวลาที่กำหนด)
  2. Step Coutdown : นับจำนวนก้าวเดิน
  3. Runway Mode : จำลองสนามวิ่ง (วิ่งในเลนสนามวิ่ง ตามจำนวนรอบที่ต้องการ)
  4. Calorie Coutdown : เป้าหมายแคลอรี่ (นับถอยหลังค่าแคลอรี่ตามที่กำหนด)
  5. Work Out : ฝึกซ้อมวิ่งขั้นสูง (ปรับระดับความเร็ว & ความชัน อัตโนมัติ ตามโปรแกรมที่เลือก หรือตั้งค่าไว้)
  6. RealView Run : จำลองสถานการณ์การวิ่งในพื้นที่ Outdoor เหมือนเราออกไปวิ่งข้างนอกบ้าน
  7. Distance Countdown : เป้าหมายระยะทาง (นับถอยหลังระยะตามที่กำหนด)
  8. Heart Pulse Control : ควบคุมอัตราการเต้นของหัวใจ
  9. Custom Mode : ปรับแต่งโปรแกรมออกกำลังกายได้อย่างอิสระ

สามารถเลือกเปลี่ยนโปรแกรมออกกำลังกายจากลู่วิ่งในแต่ละวัน เพื่อความสนุก และไม่น่าเบื่อ ในขณะเข้าสู่ช่วงไดเอท อย่างเช่น วันจันทร์ ใช้โปรแกรม Calorie Coutdown และวันพุธเปลี่ยนมาใช้โปรแกรม Distance Countdown 

 

ตั้งเป้าหมาย

เปลี่ยนการออกกำลังกายที่เวลาผ่านช้า ๆ โดยใช้โปรแกรมตั้งเป้าหมาย (Coutdown) เช่น ตั้งเป้าหมายเวลา 20 นาที โดยเริ่มจากเป้าหมายสั้น ๆ ก่อน ในช่วงแรก ถ้าเราทำสำเร็จจึงค่อย ๆ เพิ่มความท้าทายให้มากขึ้น

 

 

โปรแกรมออกกำลังกาย

ตั้งโปรแกรมระดับความเร็ว & ระดับความชัน อัตโนมัติ ในช่วงออกกำลังกาย ขอแนะนำโปรแกรม "Work Out" ที่สามารถกำหนดช่วงเวลา และช่วงความเร็ว รวมไปถึงช่วงความชันได้ง่าย ๆ เมื่อกด Start ระบบลู่วิ่งจะปรับค่าต่าง ๆ ให้อัตโนมัติตามช่วงเวลาที่กำหนดไว้ ถือว่าเป็นตัวช่วยอำนวยความสะดวก และยังช่วยกำหนดให้เราทำตามได้ง่าย

 

 

จำลองสนามวิ่ง

วิ่งอยู่บ้าน หรือในฟิตเนส ถ้าอยากได้ฟิลลิ่งวิ่งบนสนาม บนหน้าจอแสดงขณะออกกำลังกายของลู่วิ่ง Core-Fitness รุ่น Pro Run Plus สามารถแสดงผลเลนสนามวิ่ง เพื่อเห็นตำแหน่งการวิ่งในรอบสนาม ทำให้เพลิดเพลินมากกว่าเห็นเพียงข้อมูลตัวเลขเท่านั้น

 

 

5. สร้างความท้าทาย

กลับมาที่เบสิคการใช้งานลู่วิ่งกันบ้าง บางทีการใช้งานง่าย ๆ ก็สามารถสร้างความท้าทายได้เช่นเดียวกัน ซึ่งจะแนะนำให้ลองปรับค่าความเร็ว หรือค่าความชัน ที่ไม่เคยลองปรับ เพื่อลดการออกกำลังกายแบบเดิม ๆ  ซึ่งก่อให้เกิดการล้มเลิกความตั้งใจ

ตัวอย่างการปรับระดับบนลู่วิ่งเพื่อเพิ่มความท้าทาย

  • โปรแกรม 1 : ความชัน 2% / ความเร็ว 7 Km/h ขึ้นไป
  • โปรแกรม 2 :  ความชัน 12% / ความเร็ว 5 - 6 Km/h
  • โปรแกรม 3 :  ความชัน 1% / ความเร็ว 10 - 11 Km/h
  • โปรแกรม 4 :  ความชัน 20% / ความเร็ว 4 Km/h

กรณีคุ้นชินกับลู่วิ่ง หรือออกกำลังกายมาสักระยะ สามารถสร้างโปรแกรมส่วนในโหมด "Work Out" เพื่อนำมาใช้งานได้ง่าย และยังสามารถแบ่งปันคนในครอบครัวได้อีกด้วย

 

 

6. เช็คผลลัพธ์

เมื่อออกกำลังกายเสร็จสิ้น อยากให้ลองสังเกตค่าสรุปต่าง ๆ หลังออกกำลังกาย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ และเห็นความเปลี่ยนแปลงจากช่วงแรก ๆ ที่เข้าสู่โปรแกรมไดเอท

ระเวลาของการออกกำลังกาย

  • ช่วง 1 - 2 เดือน : 20 - 30 นาที / 3 ครั้งต่อสัปดาห์
  • ช่วง 3 เดือนขึ้นไป : 30 - 60 นาที / 5 ครั้งต่อสัปดาห์

ถ้าต้องการออกกำลังกายได้อย่างสม่ำเสมอ ไม่ควรหักโหมจนเกินไป แนะนำให้จัดตารางการออกกำลังกายให้เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยจนเกินไป แต่ควรกำหนดช่วงเวลา และจำนวนครั้งให้เพียงพอต่อช่วงเวลาของโปรแกรมไดเอท

 

 

7. ความบันเทิง

ข้อสุดท้ายถือว่าเป็นสิ่งที่สำคัญ จะขาดความบันเทิงเพื่อสร้างความเพลิดเพลินใหักับการออกกำลังกายไปไม่ได้ สำหรับลู่วิ่ง Core-Fitness รุ่น Pro Run Plus มาพร้อมโปรแกรม "RealView Run" และแอพความบันเทิงให้เลือกใช้งานมากมาย อาทิเช่น Youtube และ Netfilx เชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตไร้สาย (Wi-fi)

 

จำลองวิวสวย ๆ

โปรแกรม RealView Run ที่สามารถลองจำสถานที่การวิ่งทั่วโลกได้ถึง 8 รูปแบบ ซึ่งจะแสดงมุมมองเหมือนเราไปวิ่งสถานที่นั้น ๆ พร้อมข้อมูลสถิติให้เห็นพร้อมกัน โปรแกรมนี้ช่วยให้เราเพลิดเพลิน และสร้างความท้าทายจนลืมเวลาออกกำลังกายกันไปเลย โดยไม่ต้องใช้อุปกรณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น

 

 

ดู Youtube บนลู่วิ่ง

ไม่ต้องเสียเวลาหาแท็ปเล็ต หรือกลัวแบตเตอรี่สมาร์ทโฟนหมด เมื่อนำมาตั้งวางไว้ตอนออกกำลังกาย เพราะ Core-Fitness รุ่น Pro Run Plus มาพร้อมหน้าจอสี Colorful Smart Screen ขนาด 15.6 นิ้ว ที่รองรับแอปพลิเคชั่นความบันเทิงอีกมากมาย ควบคุมการใช้ง่ายด้วยระบบสัมผัสหน้าจอ สามารถดูคลิปต่าง ๆ บน Youtube ได้ขณะออกกำลังกาย หรือสายดูซีรีย์ก็มี Netfilx app ให้เลือกดูจนลืมเวลาออกกำลังกาย

 

 

 

ก่อนจบบทความนี้ ใครที่กำลังมองหาลู่วิ่งไว้สำหรับลดน้ำหนัก หรือเข้าสู่โปรแกรมไดเอท ทาง Core-Fitness ขอแนะนำลู่วิ่งรุ่นท็อป ระดับ Commercial ที่รองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้สูงสุด 200 Kg และมาพร้อมโครงสร้างขนาดใหญ่ ที่แข็งแรงทนทาน สามารถใช้งานได้ต่อเนื่องด้วยมอเตอร์ AC ในราคาที่คุ้มค่าที่สุด